การตรวจสุขภาพทางการเงินก็เหมือนการตรวจสุขภาพประจำปีนั้นเอง จะทำให้เราได้รู้ถึงสถานะทางการเงิน ทรัพย์สิน หนี้สิน ของตัวเอง เพื่อจะสามารถวางแผนการใช้เงินต่อไปนั้นเอง
เริ่มต้นจากต้องทราบรายรับ- รายจ่ายของตัวเอง
รายรับ แบ่งเป็น 3 ทาง หรือมากกว่า
- รายได้ประจำ ที่ได้เท่าๆกัน คงที่แน่นอน
- รายได้จาก ค่า OT หรือค่าคอมมิชชั่น รายได้นี้ไม่แน่นอนไม่เท่ากันทุกเดือน
- รายได้อื่นๆ เช่น การลงทุน การรับงานอื่น
การแบ่งรายได้เป็นหมวดๆ จะทำให้เรารู้ว่ารายได้เรามาจากทางไหนบ้าง มีแน่นอนอยู่เท่าไหร่ต่อเดือน
รายจ่าย แบ่งเเป็น 3 ทาง
- รายจ่ายประจำ เช่น ค่าผ่อน/เช่าบ้าน
- รายจ่ายที่ปรับเปลี่ยนได้ เช่น รายจ่ายค่า อาหาร ค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่ารถ ค่าน้ำมัน
- รายจ่ายเป็นครั้งคราว เช่น เที่ยว ของขวัญ ทำบุญ
หลังจากนั้นก็เอารายรับ - รายจ่าย แต่อย่าลืมถึงภาษีที่ต้องเสียด้วย
ถึงจุดนี้ใครมีรายจ่ายมากกว่ารายได้บ้าง ?
มีทรัพย์สินอะไรบ้างเขียนมาให้หมด เพื่อให้ทราบถึงความจริง ทองที่ซุกไว้ เงินที่หลบเมีย เขียนให้หมดครับ เพื่อจะได้ทราบบถึงความมั่งคั่งจริงได้ จะได้วางแผนการใช้เงินต่อไปได้
- เงินสดสำรองฉุกเฉิน มีไหม?
- เงินฝากธนาคาร มีเท่าไหร่?
- หุ้น / ลงทุน / LTF / RMF มูลค่าตามตลาดปันจุบัน
- บ้าน / อาคาร นับตามมูลค่าปัจจุบัน เช่น บ้านราคา 2 ล้านตอนซื้อ แต่วันนี้มูลค่า 4 ล้าน
- ประกันชีวิต อันนี้หลายคนยังเถียงกัน แต่ผมนับว่ามันเป็นทรัพย์สิน
- ฯลฯ
หนี้สิน เพื่อให้ทราบความจริง ก็จำเป็นต้องเขียนตามจริง ถึงแม้ว่ามันจะแทงใจดำก็ตาม
- เงินกู้เพื่อการศึกษา เหลืออีกเท่าไหร่
- เงินกู้เพื่อการลงทุน ส่วนที่เหลือ
- บ้าน เหลือผ่อนอีกเท่าไหร่
- รถ ต้องผ่อนอีกเท่าไหร่
- เงินกู้นอกระบบ
หลังจากนั้นก็ เอามาหารกัน ทรัพย์สิน หาร หนีสิน ออกมาก็จะเห็นว่าเรามีทรัพย์สินเป็นกี่เท่าของหนีสิน
ถึงจุดนี้ใครมีหนี้สินมากกว่า ทรัพย์สินบ้าง?
สำหรับองค์กรใด อยากให้เขาไปทำการอบรมเรื่องการ
- ตรวจสุขภาพทางการเงิน
- แก้ปัญหาหนีสิน
- วางแผนภาษี
ให้พนักงานของท่าน สามารถติดต่อได้ ที่ #FAขาโหด ไม่มีค่าใช้จ่าย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น