ทำไมต้องจัดการเรื่องความปลอดภัยในชีวิต

หากเคยเรียนถึงความต้องการของมนุษย์ เราก็จะพบว่า ความต้องการความปลอดภัยเป็นความต้องการอันดับ 2 มนุษย์รองลงมาจากความต้องการขั้นพื้นฐานในเรื่องอากาศและอาหาร

ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน มีแนวทางตามสากลกันว่าการย้ายความเสี่ยงต่างๆ ออกไปจากชีวิต เพื่อให้เกิดความรู้สึกปลอกภัยในชีวิต จะทำให้คนเราก้าวต่อไปในเรื่องอื่นๆ ได้ต่อไป เป็นควาามจำเป็น 

ยกตัวอย่าง เช่น หากคุณมีบ้านยังต้องผ่อน เมียยังเล็ก ลูกยังเด็ก หากเกิดอะไรชึ้นกับคุณ จนทำงานไม่ได้ บ้านจะผ่อนยังไง ลูกและเมียจะอยู่กันอย่างไร วิธีนี้ก็มีอยู่ 2 แนวในการคิด 

คำนวนว่าจากวันนี้ถึงวันที่ลูกเรียนจบ ต้องใช้เงินเท่าไหร่ โดยต้องคำนึงถึงว่า บ้านต้องมีอยู่ ค่าเรียนลูกต้องมีจ่าย อาหารต้องมีกิน อันนี้จะมากมายมหาศาลเลย 

คิด 70% ของเงินเดือนของคุณ นับไป 3 ปี ซึ่งวิธีนี้ต้องดูด้วยว่า เมียคุณมีงานทำ บ้านปลอดภาระแล้วหรือยัง ซึ่งจะเตรียมไว้ไม่มาก

หรือหากคุณเป็นคนโสด หรือเจ้าของธุรกิจ ก็ต้องคิดต่อยอดไปอีกว่า จะทำไงหากบริษัทไม่มีคุณบริหาร, พ่อ แม่ จะอยู่อย่างไรถ้าเราไม่อยู่ 

เรื่องสุขภาพก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องคิดเผื่อเหมือนกัน ค่ารักษาพยาบาลแพงขึ้นปีละ 8% โรคแปลกๆ เกิดขึ้น อุบัติเหตุเกิดง่ายขึ้น คนใจร้อน และทำตัวแปลกๆมากขึ้นทุกวัน  หากเราป่วยทำงานไม่ได้ ต้องเตรียมเอาไว้บ้าง 

ซึ่งหากเราสามารถย้ายความเสี่ยงไปลงที่ประกัน หรือวิธีอื่นๆได้แล้ว ความนี้คุณก็ไม่ต้องห่วงว่าจะเป็นไร ทำงานได้เต็มที่โดยไม่ต้องห่วง ใช้ชีวิตให้เสี่ยงขึ้นได้อีก เอาเงินที่เหลือไปลงทุนทำธุรกิจได้มากขึ้น ไม่ต้องกันเอาไว้เผื่อเข้า รพ. 

จะเห็นได้ว่า FA หรือที่ปรึกษาทางการเงินส่วนใหญ่จะมองโลกในแง่ร้าย เพราะว่าโลกแห่งความจริงมันโหดร้ายกว่าที่คุณคิด 

#FAขาโหด