มีคนเคยเล่าให้ฟังว่า ในยุโรปบ้านหลังใหญ่ๆ กลายเป็นบ้านร้าง หรือโดนยึด หรือพวกของสะสมโดนยึดเข้าพิพิธภัณฑ์ ก็เพราะว่าลูกหลาน ไม่มีเงินมาจ่ายภาษี
วันนี้ พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก พ.ศ. 2558 ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 โดยมีใจความง่ายๆคือ ถ้าหากมีมูลค่ารวมกันเกินกว่า 100 ล้านบาท จะเสียภาษีจากส่วนที่เกิน 100 ล้านบาท
โดยถ้าหากเป็นบุพการีหรือผู้สืบสันดานก็จะเสียในอัตรา 5% จากส่วนที่เกิน 100 ล้าน แต่ถ้าหากไม่ใช่แล้วก็เสียในอัตรา 10% จากส่วนที่เกิน 100 ล้าน
และยังมีอีกคือ พ.ร.บ.ภาษีการรับให้ นั้นถูกนำมาใช้แทนการให้ หรือโอนทรัพย์ให้โดยเสน่หา ถ้าเป็นการรับจากบุพการี ผู้รับต้องจ่ายภาษีในส่วนที่เกินกว่า 20 ล้านบาท ในอัตรา 5% หากไม่ใช่บุพการีให้ผู้สืบสันดาน ต้องจ่ายภาษีในส่วนที่เกินกว่า 10 ล้านบาทในอัตรา 5%
แล้วจะทำอย่างไรดี
1. รีบโอนให้ลูกๆ ก่อนจะตาย โดยค่อยๆโอนส่วนที่เกิน 100 ล้านก็พอ แต่อย่าโอนเกิน 20 ล้านบาทต่อปี หากเกินจะเสียภาษี
2. หากมีลูกหลายคนทำพินัยกรรมให้ลูกแต่ละคนอย่าเกิน 100 ล้านบาท แต่สำหรับสามีหรือภรรยาไม่ต้องเสียภาษี
3. ทำประกันชีวิตเอาไว้ให้พอค่าภาษี อันเป็นแนวใหม่ที่น่าสนใจ เพราะว่าประกันชีวิตจะมีสภาพคล่องสูงที่สุดเมื่อผู้ทำประกันจากไป เงินจะจ่ายให้ตามสัญญาที่ทำไว้ และไม่ต้องเสียภาษี
ข้อมูลอย่างละเอียด เว็บไซต์กรมสรรพากร
http://www.rd.go.th/publish/27614.0.html
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก พ.ศ. 2558
http://www.fpo.go.th/S-I/Source/ECO/ECO82.pdf
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก พ.ศ. 2558
http://www.fpo.go.th/S-I/Source/ECO/ECO82.pdf
#FAขาโหด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น