ได้เรียนรู้อะไรจากการเกิดวิกฤติโควิด 19 แยะมาก ก็เลยอยากที่จะบันทึกเอาไว้ว่าเราได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้างในมุมมองของตัวเอง โดนจะแบ่งออกเป็นส่วนๆในมุมมองต่างๆ
มุมมองทางด้านการเงินการลงทุน
- เงินสำรองฉุกเฉินจำเป็นมาก หลังจากนี้ทุกคนจะตระหนักถึง เงินสำรองฉุกเฉินคนที่มีอยู่บ้างแล้วก็ควรที่จะเก็บไปให้อยู่ได้ถึง 12 เดือน ส่วนใครที่ไม่มีก็จะเริ่มต้นเก็บ
- ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ของการ การกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ซึ่งการกระจายความเสี่ยงนั้นสามารถกระจายไปในทรัพย์สินทางเลือกอื่นๆ เช่น ทอง ห้องเช่า ไม่ใช่แค่ตราสารหนี้หรือตราสารทุน
- การวางแผนเกษียณจะได้รับความสนใจมากขึ้น คราวนี้หลายคนได้ทดลองเกษียณอายุแบบไม่ได้ตั้งตัวกันเลย คาดว่าจะทำให้หลายคนตระหนักได้มากขึ้น
มุมมองทางด้านอาชีพ
- งานที่คิดว่ามั่นคงอาจจะไม่ใช่เสมอไป ใครจะไปคิดว่าสายการบิน การท่องเที่ยว จะหยุดชะงักจนเรียกได้ว่าล้มละลายกันไปเลยพร้อมกันได้ทั่งโลกขนาดนี้ อาชีพบางอย่างก็ถูกสั่งปิดอีก ขนาดประกันบางอย่างยังขายไม่ได้เลยเพราะคนกลัวไปหมดกอดเงินสดไว้กับตัว
- พฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนไป จากการโดนบังคับให้ใช้การซื้อขายสินค้าออนไลน์ ทำให้หลังจากห้างเปิดทำการได้แล้วคนอาจจะไม่กลับไปห้างในแบบเดิมๆ
- ขายของกินก็ยังพอขายได้ แต่ต้องปรับตัวอย่างมาก เพราะร้านโดนสั่งปิดการปรับตัวให้ทันจะทำให้เจ็บตัวน้อยลง แต่ก็ยังเจ็บตัว
- ซุปเปอร์มาร์เก็ตได้ประโยชน์จากการตื่นตระหนกของคน ทำให้มีการกักตุนสินค้าในช่วงแรก แต่พอถึงในระยะยาวก็น่าจะกระทบจากกำลังซื้อที่ตกลงได้
สินค้าขาดตลาด
- ความมั่นคงในสินค้าจำเป็น ซึ่งอาจจะทำให้ในอนาคตอาจจะมีการเปิดโรงงานผลิตสินค้าในท้องถิ่นมากขึ้น การปล่อยให้ประเทศอื่นผลิตสินค้าแล้วนำเข้ามาทั้งหมดอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว
- การกักตุนสินค้าทำให้หลายคนเจ็บตัว จากการซื้อแอลกอฮอล์และหน้ากากอนามัยมาเก็บเอาไว้ เพื่อจะขายในราคาสูง เป็นแนวคิดที่ไม่ดี ทำให้สินค้าขาดตลาดคนที่จำเป็นต้องใช้ไม่มีใช้ พอของเริ่มกลับมาขายคนที่กักตุนก็เจ็บตัวไม่สามารถขายได้ เจ็บตัวกันไป แถมสังคมสมน้ำหน้าอีกต่างหาก
- สินค้าขาดตลาดจากความตื่นตระหนกและข่าวลือ เป็นในทุกประเทศ ตั่งแต่กระดาษชำระขาดตลาดในญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ไข่แพงที่ไทย
การจัดการในสภาวะวิกฤติ
- การจัดการของหลายสายการบินทำได้ดีแต่ก็ไม่รอด สายการบินจะมีขั้นตอนการจัดการต่างๆเป็นคู่มือเอาไว้อยู่แล้ว เช่น ถ้าเครื่องบินตก ต้องทำอย่างไร แต่ว่าคราวนี้ ตอนที่หลายๆประเทศเริ่มปิดไม่ให้เข้า คนจำนวนมากขอเงินคืนจนเรียนได้ว่าเป็นการจราจลทางออนไลน์ มีคนขอเงินคืนและยกเลิกการเดินทางจำนวนมาก ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นเลยในประวัติศาสตร์โลกขึ้นมาก่อน
- การจัดการของรัฐบาล พังทุกประเทศ พังกันคนละแบบ ประชาชนเจ็บตัวกันทุกคน ประเทศไหนขยับตัวได้เร็ว สร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้ ใช้สื่อได้อย่างดีก็จะสามารถควบคุมความตื่นตระหนกได้เร็ว ครั้งนี้มีคนบอกว่าเหมือนผู้นำประเทศได้ข้อสอบข้อเขียนเหมือนกันทุนคน ซึ่งคำตอบของแต่ละคนต่างกันออกไปตามทรัพยากรและเงินที่มีอยู่
มีคนที่มีช่วยคนที่ไม่มี
การช่วยเหลือกัน คนที่มีเงิน มีกำลัง ออกมาช่วยเหลือคนที่ไม่มี เกิดขึ้นทุกครั้งในวิกฤติ ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ในประเทศไทยเท่านั้นเห็นได้ในหลายๆประเทศ มีทำอาหารมาเลี้ยงคน การแจกอาหารแห้ง
กระบวนการแปลกๆใหม่ๆ
เนื่องจากเป็นสภาวะวิฤกติ งานวิจัยออกมาไม่ทัน คนหลายๆคนก็ช่วยกันคิดว่าจะจัดการอย่างไร ก็เลยเกิดวิธีการที่ไม่เคยมีทำมาก่อนในโลกทั้งในการใช้ชีวิตก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้เห็นคราวนี้ ซึ่งมีแยะมากจนคิดไม่ถึงกันเลยทีเดียว
- การพ่นยาฆ่าเชื่อโรคทั่วไปหมด ซึ่งได้ให้มากมายไปหมด พ่นกันทั้งบ้านทั้งเมือง พ่นถนน พ่นทางเดิน ทำความสะอาดครั้งใหญ่มากกันทั้งบ้านทั้งเมือง
- การทำอุโมงค์พ่นยา ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยมากว่าเดินผ่านแค่เสี้ยววินาทีจะใช้งานได้จริงหรือ
- การร่วมมือกันของ Google และ Apple พัฒนาการระบบติดตามคนป่วย
- การแยกๆกันอยู่ แยกกันนั่งในขนส่งมวลชน
- คนยุโรปและอเมริกัน ได้เรียนรู้ที่จะใส่หน้ากากอนามัย
วันที่บันทึกนี้ โควิด 19 ยังไม่จบ และคาดว่าจะอีกนานที่จะจบ ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ให้รอดต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น