ทำงาน Freelance จะซื้อประกันสุขภาพยังไงดี?

ชีวิต Freelance เป็นชีวิตที่อิสระ เลยทำให้ไม่มีสวัสดิการต่างๆ จำเป็นต้องดูแลตัวเองในทุกๆเรื่องๆ ทั้งการเงิน การงาน การเจ็บป่วย

เป็นฟรีแลนซ์อย่างน้อยก็ยังมีบัตรทองอยู่ ซึ่งคุณจะได้สิทธิ์ไปรักษาได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านได้ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิได้ที่นี่ http://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml

หรือหากไม่ชอบใจสามารถสมัครประกันสังคม ตามมาตรา 40 โดยสามารถเลือกได้ถึง 3 ทางเลือกด้วยกัน
ทางเลือกที่ 1 จ่ายเงิน 70 บาท/เดือน

สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง  3  กรณี  คือ  กรณีประสบอันตราย หรือเจ็บป่วย , ทุพพลภาพ และ เสียชีวิต

ทางเลือกที่ 2 จ่ายเงิน 100 บาท/เดือน
สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง  4  กรณี  คือ  กรณีประสบอันตราย หรือเจ็บป่วย , ทุพพลภาพ , ตาย และ ชราภาพ

ทางเลือกที่ 3 จ่ายเงิน 300 บาท/เดือน
สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง  5  กรณี  คือ  กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย , ทุพพลภาพ , ตาย , ชราภาพ และสงเคราะห์บุตร

ข้อมูลเพิ่มเติม การสมัครและขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40

สุดท้ายหากใครคิดว่าอยากได้ที่ดีกว่านี้ สะดวกกว่านี้ เข้า รพ.เอกชนดีๆได้ ก็คงต้องทำประกันสุขภาพกับบริษัทประกันเพิ่มเติม โดยประกันที่ทำเพิ่มนั้นสามารถใช้ร่วมกับประกันสังคม และบัตรทองได้ 
การทำประกันอาจจะเริ่มต้นจากง่ายๆก่อน อาจจะเป็นประกันอุบัติเหตุ ซึ่งจะคุ้มครองการเกิดอุบัติเหตุทุกชนิด ไม่ว่าจะหมากัด รถล้ม ตกบันได ที่ไม่คุ้มครองคือทำร้ายร่างกายตัวเอง ไปแข่งกีฬา ไปทะเลาะวิวาทร่วม ซึ่งจะเริ่มต้นที่ราคาถูกมาก ประมาณปีละ 3,000 

หากจะทำกรรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพ สิ่งที่อยากจะให้คิดถึงให้ดี 

1. มูลค่าของประกันชีวิต อย่างน้อยควรมากพอค่างานศพตัวเอง หรือ มากเท่าหนี้สินที่มี จะได้ไม่เป็นภาระคนข้างหลัง

2. ประกันสุขภาพ ควรรับประกันผู้ป่วยนอก ป่วยน้อยๆ จะได้รีบไปหาหมอได้จะได้รีบหายรีบกลับมาทำงาน

3. อย่าลืมค่าชดเชยในขณะนอนโรงพยายาล เป็นฟรีแลนซ์นอนรพ. ไม่มีใครให้เงินเดิน หยุดงานเท่ากับหยุดเงิน การมีค่าชดเชยนอน รพ. จะได้ไม่ต้องห่วงเสียงานมากนัก

4. อย่าลืมประกันโรคร้ายแรง ฟรีแลนซ์มักจะลุ้มหลงกับการทำงาน แล้วก็ทำงานหนัก นอนดึก ใช้ร่างการหนักมาก มีโอกาสเป็นมะเร็ง ความดัน และโรคหัวใจได้มาก

เดี๋ยวตอนต่อไปจะเขียนเรื่องการวางแผนการเงินของฟรีแลนซ์ในปี 2020 นะครับติดตามกันเอาไว้นะครับ 



ความคิดเห็น